blog tag ของ ปิ่น ปรเมศวร์
สวัสดีปีใหม่ 2550 ครับ !
กลับมาเขียน blog ตอนนี้ ก็เพราะคุณยุ้ย คนชายขอบแท้ๆ
คุณยุ้ยครับ คุณทำสำเร็จแล้ว !
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อตอนบ่าย แว่บเข้า msn ตั้งใจเข้ามาชมคุณ filmsick เป็นการเฉพาะว่าชอบบทความใหม่ที่เขียนมาลงคอลัมน์ 'ดูหนังอย่างคนป่วย' เรื่อง 'FLANDERS เปิดโล่งคือปิดล้อม' เสน่ห์งานเขียนของคุณ filmsick ประการหนึ่งคือฝีมือในการเขียนเปรียบเปรย และการเลือกใช้ศัพท์เท่ๆ บาดๆ กวีๆ ได้เด็ดขาด อีกประการหนึ่ง(ในอีกหลายประการ)คือ ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ น่าอ่าน และสื่อความหมายของเนื้อเรื่องได้ชะงัดบาดลึก
คุยกันแป๊บนึง คุณ filmsick ก็บอกว่า ผมโดน tag ซะแล้ว พูดเหมือนกับผมจะเข้าใจงั้นแหละ อย่าถูกลวงตาด้วยเห็นเป็น บก.นิตยสารออนไลน์เชียว ตัวจริงมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเพียงหางอึ่ง ไม่ใช่พวก geek อย่างคนชื่อยุ้ยที่อยู่แถวๆ ชายขอบนั่นซะหน่อย (ฮา)
ไต่ถามคุณ filmsick เลยเข้าใจว่า blog tag ก็คล้ายๆ จดหมายลูกโซ่ ถ้าเราโดน tag แปลว่า เราต้องเขียนเล่าเรื่องของตัวเอง 5 ข้อ แล้ว tag ชาวบ้านต่ออีก 5 คน
เพราะคุณยุ้ยแกไปโดน tag มา แกก็เลย tag ผมและเพื่อนต่ออีก 5 คน ด้วยต้องการเพิ่มแรงกดดันให้พวกเราอัพ blog
(อ่าน tag ของคุณยุ้ยได้ ที่นี่)
คุณยุ้ยส่งมา จะไม่ทำก็ไม่ได้ เดี๋ยวอีกหน่อยจะยุไม่ขึ้น แถมเห็นแผนผังที่คุณ Keng อุตส่าห์ทำอย่างสวยงาม ดูแล้วรู้สึกว่า ถ้าไม่ทำตามกติกา และ tag ต่อจะเป็นบาปกรรมอย่างยิ่ง กลัวจะเป็นคนเลวเหมือนคามิยามะแห่งคุโรมาตี้ทำกับโดมิโนเพื่อหยุดสถิติโลก
เช่นนี้แล้ว ... เชิญรับทราบเรื่อง(ไร้สาระมาก)5 ประการของกระผม
1. ผมชอบสอนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก(มากๆ) แค่ประถมปลายมัธยมต้น ผมก็จับน้องมานั่งเรียนหนังสือ หน้ากระดานไวท์บอร์ดเล็กๆ ที่ติดอยู่หลังเก้าอี้นั่งของเด็ก และชอบทำชีทการบ้านบังคับให้น้องทำ ทำผิดก็ชอบจับตี (โหดอะไรอย่างนี้!) เหยื่อของผม นอกจากจะเป็นน้องสาว ก็เป็นน้องชาย ลูกของคุณอา จนคนหลังเข็ดขยาด ไม่ค่อยกล้ามาบ้านผม
2. ผมเป็นเด็กจิ๋วแจ๋วครับ ! ทำรายการมาตั้งแต่ประถมหกจนถึงมัธยมสี่ (เคยแอบกลับไปทำอีกครั้งตอนอยู่ปีหนึ่งช่วงสั้นๆ) ถึงตอนนี้อายุเกือบสามสิบ (ไม่ใช่สามสิบไปหลายปีแล้วอย่างคุณยุ้ย)ประกอบอาชีพอาจารย์สอนหนังสือ ก็ยังโดนแนะนำต่อท้ายชื่อต่อหน้าฝูงชนว่าเป็นอดีตเด็กจิ๋วแจ๋วอยู่เลย เคยโดนแนะนำมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นก่อนเริ่มงานอภิปราย งานปฐมนิเทศนักศึกษา งานพบผู้ปกครอง ไปสอนหนังสือ หรือเป็นวิทยากรอบรมนักข่าว
เคยโดนแนะนำผิดต่อหน้าสาธารณชนมาหมดแล้วเช่นกัน ว่าเป็นเด็กผึ้งน้อย เป็นเด็กเซ็นทรัลบัณฑิตน้อย เป็นเด็กโต้คารมมัธยมศึกษา ทั้งที่ผมไม่เคยไปเต้นผึ้งน้อยๆ ตัวนิดๆ ไม่เคยเต้นชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ ไม่เคยโชว์แต่งตัวออกทีวี ซะหน่อย !
3. สมัยเรียนหนังสือปริญญาตรี แทบทุกวันศุกร์ บ้านผมจะเปิด CM Camp สำหรับผู้ไม่รู้จัก CM เป็นชื่อย่อของเกม Championship Manager ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล จัดทีมลงแข่ง ซื้อตัวนักเตะ เหมือนอยู่ในวงการลูกหนังโลกของจริงมาก (ใครอย่าเถียง แฟน CM ถือว่าเหมือนจริงมาก)
CM Camp ประกอบด้วยสมาชิกหลักคือ ผม โอ๊ค และฮาร์ท สามเพื่อนรักแห่งคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ที่เรียก Camp เพราะเรากลับมาปักหลักกันตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ เล่นยาวกันทั้งคืน นอนเช้า ตื่นเที่ยง แล้วซัดกันต่อ (คืนแรกกว่าจะซื้อตัวกันเสร็จก็สามสี่ทุ่มแล้ว บางตัวต้องเป่ายิ้งฉุบ หรือจับฉลากกัน) สถิติสูงสุดของ CM Camp คือ 2 คืน 3 วัน ไม่ไปไหนเลย ซัดไปหลายฤดูกาล CM Camp เปิดติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ส่วนสถิติส่วนตัวของผม เคยเล่น CM สูงสุด 27 ฤดูกาล
4. ผมทำหนังสือครั้งแรกในชีวิตตอนอยู่ปริญญาตรีปีสอง หนังสือชื่อ 'เช้าใหม่' ขายเล่มละ 7 บาท ทำออกมาได้ 3 เล่ม พิมพ์ที่สำนักพิมพ์สุขภาพใจ ครั้งละประมาณ 1 พันเล่ม (ถ้าจำไม่ได้ผิด) วางขายที่ร้านนายอินทร์ และดอกหญ้า ท่าพระจันทร์ รวมทั้งศูนย์หนังสือ มธ. ทำกันเองเพราะอยากทำ กับเพื่อนอีก 4 คน มี เก่ง ผีหนึ่ง พี่โย และไอ้บุ้ง นอกจากทำงานด้านบรรณาธิการ ตอนนั้นเขียนคอลัมน์ชื่อ 'ตะกร้าความคิด' ใช้นามว่า 'ปิ่น ปรเมศวร์' เคยได้จดหมายชมจากหลวงพี่ท่านหนึ่งด้วย
5. ก่อนปีใหม่ได้ไปกินข้าวกับ 'นิ้วกลม' เลยได้รู้ว่า ท่ามกลางความแตกต่างของเราทั้งสอง ทั้งอาชีพ ความสนใจ วิถีชีวิต กลับมีจุดร่วมอะไรกันบางอย่าง จุดร่วมที่ทำให้ชายสองคนละลายน้ำแข็งระหว่างกันได้โดยง่าย นั่นคือ เรามีพระเจ้าองค์เดียวกัน (หรือนางฟ้าวะ)(ฮา) ผมไม่ขอเล่า เพราะเล่าเรื่องได้ไม่เนียน ไม่ใช่นักเขียนอาชีพ เดี๋ยวจะมีปัญหาครอบครัว ขอยก tag ต่อให้ 'นิ้วกลม' ตัดสินใจแล้วกันว่าจะเล่าหรือไม่ และเล่าอย่างไร ให้ทั้งผมทั้งเขาปลอดภัยทั้งคู่(ฮา)
ขออนุญาต tag ต่อไปที่ 'นิ้วกลม' ในทันที
ตามด้วย นายนิติรัฐ corgiman Ratioscripta และ คุณกรัปป้า ระหว่างบรรทัด
<< Home