pin poramet's blog

Enjoy the world of bloggers !!!

Sunday, August 14, 2005

Re-Open


ก้าวพ้นจากหลุมดำ

การต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง blogger สุดขี้เกียจกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในห้วงเวลาหลังจากเหล่าพลพรรคที่ฝึกวิชาอยู่เมืองนอกบ้าง บ้านนอกบ้าง กลับคืนสู่บ้านเกิด

เพื่อให้มั่นใจว่าตำแหน่งนี้จะตกเป็นของนายนิติรัฐในท้ายที่สุด ผมเลยต้องรีบกลับเข้าวงการ มา Re-open blog ตัวเองโดยเร็ว

แรงดึงดูดของหลุมดำในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรรุนแรงมาก ไม่แปลกใจที่หลังจากนายนิติรัฐ หรือคุณ Tihtra กลับเมืองไทย วงการ blog ก็สูญเสีย blogger มือดีไปชั่วขณะ

ตั้งแต่กลับจากบ้านนอก ผมเองก็ห่างหายจากการเขียน blog ไปสองอาทิตย์ ที่ผ่านมา ผมใช้เวลากับการเดินสายพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูงและผู้คนเป็นหลัก และจัดทำต้นฉบับหนังสือรวมเล่มของผมและของอาจารย์วรากรณ์ที่จะออกในงานมหกรรมหนังสือฯ ต้นเดือนตุลาคมนี้เป็นรอง

เวลาที่เหลือก็ใช้ดู DVD (เพิ่งดู 24 season 3 จบเมื่อวันแม่) และตะลุยอ่านหนังสือเล่ม การ์ตูน และนิตยสารหลายเล่มที่ออกช่วงผมอยู่บ้านนอก ซึ่งเพื่อนซื้อเก็บไว้ให้

ผ่านมาสองอาทิตย์เต็ม ก็รู้สึกว่าสมควรได้เวลากลับคืนสู่โหมดปกติ ควรกลับมาลงมือจัดการกับวิทยานิพนธ์ และเขียนอ่านอย่างสม่ำเสมอดังเดิมได้แล้ว ก็ตั้งใจว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนของการทำงานให้มากขึ้นโดยลำดับ ทีละเล็กละน้อย

เจออะไรสนุกๆ ก็จะมาเขียนเล่าให้อ่านกันใน blog เช่นเคย แม้จะไม่ถี่เหมือนตอนอยู่บ้านนอกก็ตาม


Re-Open

สำหรับแฟนๆ นิตยสาร Open ผมมีกิจกรรมแก้คิดถึงมาบอกกล่าว

สำนักหนังสือไต้ฝุ่น และ openbooks ภูมิใจเสนอ

Re-Open นิทรรศการภาพเกี่ยวกับนิตยสาร open

ชมภาพถ่ายโดยช่างภาพ open แต่ละยุค (ศุภชัย เกศการุณกุล, สมิทธิ ธนานิธิโชติ, ชนานันต์ โชติรุ่งโรจน์, วรพจน์ พันธุ์พงศ์) และงานศิลปะโดยไทวิจิตร พึ่งเกษมสมบูรณ์, ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา, ปราบดา หยุ่น

พบเจอพูดคุยระหว่างคนทำ คอลัมนิสต์ และคนอ่าน ด้วยบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2548 นี้ 17.00 น. ที่ Play Gallery ชั้น 3 Playground! ซอยทองหล่อ (ติดกับ สน.ทองหล่อ)

ใครว่างและสนใจ ก็ขอเชิญตรงนี้เลยนะครับ เข้าใจว่านิทรรศการภาพจะจัดแสดงประมาณหนึ่งเดือน ส่วนวันอังคารที่ 16 สิงหาคมเป็นงานเปิด ได้ข่าวว่าชาว open จะไปกันพร้อมหน้าพร้อมตา ผมมีประชุมตอนห้าโมงเย็นวันนั้นพอดี ถ้าประชุมเลิกไม่ดึก ก็คงตามไปตอนดึกๆ

ชมภาพแล้วยังไม่หายคิดถึง ก็อ่าน Popeyes กันต่อ

ตอนนี้ทีมงาน open เก่าบางส่วน เช่น วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ปราบดา หยุ่น นราวุธ ไชยชมภู ฯลฯ รวมตัวกันทำนิตยสารเล็กๆ บางๆ ขนาด 24 หน้า ชื่อว่า Popeyes แทรกตัวอยู่ในนิตยสาร Pop ของ บก.ตี้ สุรจักร์ ชัยวรศิลป์ ทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

คิดถึงคอลัมน์หน้าศูนย์ของพี่คุ่น บทสัมภาษณ์ของพี่หนึ่ง งานเขียนอารมณ์ละเมียดของนราวุธ ก็เพิ่มความคิดถึงได้กับ popeyes ผมเองก็ไปร่วมแจมกับเขาเหมือนกัน


Meet the Blogger

ผมไม่เคยมีเพื่อนจากโลกอินเทอร์เน็ตมาก่อน กระทั่งมาเขียน blog

ผมหมายถึงเพื่อนที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่รู้ภูมิหลัง แต่กลับมาสนิทสนมกันใน Cyberspace

blogger คนแรกที่ได้เห็นหน้าค่าตา ก็คือ อาทิตย์ หรือ Tihtra ที่อุตส่าห์เดินทางมาเยี่ยมเยียนผมถึงบ้านนอกเมื่อหลายเดือนก่อน

กลับมาเมืองไทยคราวนี้ คนแรกที่ได้พบหน้าก็คือนายนิติรัฐ ที่ผมเฝ้ารอเจอตัวจริงมานาน

ครั้งแรก เป็นประสบการณ์เฉียด ผมอยู่ Hemlock นิติรัฐอยู่ Molly bar เราโทรคุยกัน แต่คืนนั้น วงโคจรยังไม่มาซ้อนทับ เพราะขวดเหล้ามันทับขาป๊อกไว้

ครั้งที่สอง สายลมแห่งชะตากรรมพัดเรามาเจอกันสักที แต่เป็นการเจอกันที่ไม่ธรรมดา จะเรียกว่าเจอกันแบบขำๆ ตามภาษานิติรัฐก็ไม่ผิด

ศุกร์นั้น เริ่มต้นจากผมอยู่ Molly bar นิติรัฐนั่งกินลมชมสะพาน จนตีหนึ่ง Molly bar ปิด ผมลองโทรหานิติรัฐว่ายังอยู่แถวนี้หรือเปล่า จะชวนไปนั่งเล่นที่ Hemlock ต่อ ปรากฏว่าโอเค ผมก็นัดเจอกันหน้า Hemlock ตอนตีหนึ่งกว่า ผมไปถึงก่อนเพราะใกล้กว่า

แต่ร้านปิด !!!

ยืนรอแป๊บนึง นิติรัฐก็พาร่างอันอวบอั๋นด้วยวิตามินแอลมาเจอผม ผมก็ตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้เจอ blogger ขวัญใจ

เจอกันแล้ว ปัญหาใหญ่ก็คือ ต้องหาที่นั่งคุย เพราะร้านแถวถนนพระอาทิตย์ปิดกันหมด เราก็เดินคุยเลียบถนนพระอาทิตย์ไปทางบางลำพู เผื่อเจอร้านข้าวต้มให้นั่งต่อได้ เดินถึงผู้จัดการ มองไปข้างหน้า สายตาผมเห็นชายสูงอายุผู้หนึ่งกำลังโบกมือเรียกแท็กซี่

"เฮ้ย พ่อกูนี่หว่า" ... ผมอุทานเบาๆ แล้ววิ่งไปเรียกพ่อ

ทักทายกันเสร็จ พ่อเปลี่ยนใจยังไม่กลับบ้าน ด้วยหน้าที่พ่อที่ดี เห็นลูกๆ ไม่มีที่นั่ง จึงต้องรับผิดชอบผมกับป๊อก

"ป่านนี้ร้านแถวนี้ปิดหมดแล้ว ยกเว้นที่หนึ่ง พ่อเพิ่งออกมา แต่เสียงดังหน่อยนะ" พ่อบอกลูกทั้งสอง

แล้วพ่อก็พาผมกับป๊อกไปที่ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่เล็กๆ หนึ่งห้อง ลักษณะย้อนยุค ชั้นล่างของอพาร์ตเม้นต์แถวๆ ซอยวัดสังเวช

เหลือบตามองรอบตัว 4-5 โต๊ะในร้านยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คน และแน่นอน ผู้คนในร้านทั้งหญิงและชาย มีอายุขั้นต่ำอยู่ที่ 50 ฤดูฝน บ้างใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ดูรูปการณ์แล้วน่าจะเป็นคนพื้นถิ่นบางลำพู บ้างใส่ชุดทำงานเรียบร้อย ฝ่ายคุณพี่ผู้หญิง(ในบางอารมณ์ของชีวิต ผมคงเรียกคุณป้า)แต่งตัวทำผมอย่างสวยงามเหมือนเช่นที่เคยเห็นในนิตยสารยุคโบราณ ผมมั่นใจสายตาตัวเอง แม้จะละเลียดน้องแอลไปแล้วไม่น้อย

"จะกลับบ้านแล้วดันเจอน้องชายว่ะ" พ่อบอกเพื่อนฝูงในร้านถึงสาเหตุที่ต้องกลับมาใหม่ หลังจากรอบแรกก็นั่งยาวตั้งแต่บ่ายแก่

ครั้งแรกระหว่างผมกับป๊อก เลยเป็นการสนทนาธรรมในบรรยากาศย้อนยุค บนโต๊ะมีเบียร์สิงห์ คลอด้วยเสียงเพลงสุนทราภรณ์บ้าง เพลงลูกกรุงสมัยแรกเริ่มบ้าง บทเพลงซึ่งเหล่าคุณน้าคุณอาคุณป้าคุณลุง ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปร้องเป็นที่รื่นเริงบันเทิงใจ

พ่อผมนั่งคุยด้วยสักพัก ก็ขอตัว ลุกจากเก้าอี้

ไม่ได้ตรงไปโต๊ะข้างๆ ... แต่ตรงขึ้นเวที

มือถือไมค์ ไฟส่องหน้า ครวญเพลงให้เพื่อนร่วมร้านฟัง

"พ่อพี่โคตรวัยรุ่นเลยว่ะ" ป๊อกหันมาคุยกับผม

"พี่ชายน้องคอแข็งเป็นบ้า ผมยกนิ้วให้เลย" เพื่อนพ่อเดินมากระซิบข้างหูของผม

"ครับพี่" ผมตอบคุณลุงคนนั้น


Meet the Bloggers

ว่าแล้ว เรามานัดสังสรรค์หมู่เหล่าชาว bloggers กันให้พร้อมหน้าพร้อมตาดีกว่า

ผมขอเชิญทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน blog ของผมและผองเพื่อน ร่วมพบหน้าพูดคุยกันสนุกๆ ไม่ว่าท่านจะเขียน blog หรือแวะเวียนมาอ่านก็ตาม ไม่ว่าท่านจะรู้จักผมและผองเพื่อนมาก่อนหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหา

เชิญมาร่วมสนุกกันเถิด

ชื่องาน: Meet the bloggers ครั้งที่ 1

สถานที่: ร้าน Hemlock ถนนพระอาทิตย์

วันเวลา: จันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2548 เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป

โปรดอย่าพลาด !!!